CALL US TODAY
02-096-3496

Weekdays
09:30 ~ 18:00

กรณีศึกษา: จากบริษัทรถยนต์ สู่ศูนย์กลางของผู้ร่วมมือทางธุรกิจใหม่เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

อุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมยานยนต์

ปัญหา

อุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่บริษัทประกอบธุรกิจหลักอยู่ กำลังได้รับผลกระทบจากการเข้ามาสู่ตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า อันมีผลให้ยอดขายของยานพาหนะหลายประเภทของบริษัทมียอดขายที่ลดลง ส่งผลให้บริษัทจำเป็นต้องหาธุรกิจใหม่ที่จะเข้ามาเป็นเสาหลักของรายได้ในอนาคต แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเป็นธุรกิจใด

ประเด็นสำคัญ

> การประเมินความเป็นไปได้ (PoC)
> พันธมิตรสำหรับธุรกิจใหม่
> ผลกระทบจากยานยนต์ไฟฟ้า (EV)

ผลลัพธ์

บริษัทรถยนต์แห่งนี้ร่วมทำงานกับลิบ คอนซัลติ้งและสามารถเริ่มทำธุรกิจผู้ให้เช่าแบตเตอรี่เอนกประสงค์ ตั้งแต่การสำรวจความต้องการของตลาดไปจนกระทั่งได้ผู้ร่วมมือทางธุรกิจ (Business partners) มาทั้งหมด 3 บริษัท ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยจุดเด่นของแบตเตอรี่เอนกประสงค์นี้อยู่ที่การไม่จำกัดการใช้งานแค่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่สามารถนำไปใช้กับระบบไฟฟ้าภายในอาคารได้อีกด้วย ส่งผลให้บริษัทรถยนต์แห่งนี้มีโอกาสที่จะสามารถทำรายได้มากถึง 50 ล้านบาท ต่อปี

บริบท

แม้ว่าจะมีแนวคิดธุรกิจ โมเดลธุรกิจ หรือกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการในธุรกิจใหม่มากเพียงใด การเริ่มทำธุรกิจจริงๆย่อมมีความแตกต่างจากการวางแผนธุรกิจต่างๆในกระดาษ บริษัทที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ทุกแห่งย่อมมีความกังวลว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ จะสำเร็จตามแผนที่ตนเองได้วางไว้หรือไม่ โดยบริษัทส่วนมากใช้วิธีการทดสอบตลาด (market test) โดยการเริ่มต้นจากการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการกับลูกค้ากลุ่มเล็ก ๆก่อน แล้วจึงนำผลตอบรับในตลาดมาปรับแผนธุรกิจ หรือโมเดธุรกิจของตนเอง แต่ในความเป็นจริงนั้นการสร้างธุรกิจใหม่นั้นมีทรัพยากร (เช่น คน, เงิน, เวลา เป็นต้น) ที่จำกัด ส่งผลให้หลายบริษัทที่มีไอเดียธุรกิจใหม่ๆ กลับล้มเหลวในการพิสูจน์ว่าธุรกิจใหม่นี้สามารถดำเนินต่อไปได้จริง

บริษัทนี้เป็นบริษัทในเครือผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นอีกผู้เล่นหนึ่งในตลาดรถยนต์ที่มียอดขายรถยนต์สันดาปที่ตกลงจาก การเข้าสู่ตลาดของยานพาหนะไฟฟ้า บริษัทนี้ต้องการที่จะเริ่มธุรกิจใหม่ให้ไวที่สุด เพราะไม่อยากเสียโอกาสในตลาดหากรอให้ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเรียบร้อยก่อน จึงได้ติดต่อให้ลิบเข้าไปช่วยโปรเจคช่วยประเมินความเป็นไปได้ในการเริ่มธุรกิจใหม่เกี่ยวกับการให้เช่าแบตเตอรี่ (BaaS : Battery as a Service)

บริษัทรถยนต์แห่งนี้ประสบปัญหาในเรื่องของการมีโมเดลธุรกิจ แต่ไม่สามารถพิสูจน์แนวคิดทางธุรกิจ (PoC : Proof of Concepts) ได้ว่าจะทำรายได้ตามเป้าหมายที่ผู้บริหารได้ตั้งไว้ได้หรือไม่ อีกทั้งยังขาดผู้ร่วมมือทางธุรกิจที่จะทำให้ธุรกิจนี้สามารถได้จริง

สิ่งที่ยากที่สุดในการทำโปรเจคนี้ ไม่ใช่การสร้างไอเดียธุรกิจที่แปลกใหม่ แต่เป็นการหาผู้ร่วมมือทางธุรกิจที่จะคอยสนับสนุนเรื่องกำลังคน สถานที่ในการทำ Proof of Concepts ฐานลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจนี้ให้ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งมีอุปสรรคดังต่อไปนี้

       1. บริษัทรถยนต์แห่งนี้ไม่ทราบว่าธุรกิจใหม่ของตนเองนั้น มีเรื่องอะไรที่ต้องพิสูจน์บ้าง เพื่อยืนยันว่าธุรกิจการให้เช่าแบตเตอรี่จะสามารถดำเนินการต่อไปได้
       2. บริษัทรถยนต์แห่งนี้มีกำลังคนจำกัดสำหรับโปรเจคนี้ มีความเสี่ยงที่จะทำโปรเจคเสร็จสิ้นไม่ทันเวลาที่กำหนด
       3. ผู้ร่วมมือทางธุรกิจมีความกังวลว่าการทำธุรกิจเช่าแบตเตอรี่จะมีความเสี่ยงต่อธุรกิจเดิมของตนเองหรือไม่ ทั้งในด้านต้นทุน และชื่อเสียงของบริษัท
       4. บริษัทรถยนต์ไม่สามารถเข้าหาผู้รวมมือทางธุรกิจได้ด้วยตัวเองเนื่องจากนโยบายที่เข้มงวดของบริษัทที่ต้องใช้เวลาในการทำเอกสารต่างๆเพื่อขออนุญาตติดต่อบริษัทอื่นๆเพื่อเก็บข้อมูล

สิ่งที่ทำให้การพิสูจน์แนวคิดธุรกิจครั้งนี้สำเร็จ ได้แก่
       1. ลิบเข้าถึงผู้ร่วมธุรกิจต่างๆและลูกค้ากลุ่มแรกๆที่เป็นไปได้ ด้วยความรวดเร็วที่เพียงพอก่อนที่ผู้ร่วมธุรกิจและลูกค้าจะไปร่วมมือหรือใช้บริการของบริษัทคู่แข่ง
       2. ลิบเป็นหนึ่งในทีมของโปรเจคที่ช่วยประสานงานระหว่างสมาชิกต่าง ๆ ในบริษัทรถยนต์แห่งนี้ เพื่อให้โปรเจคสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด

อีกความท้าทายของบริษัทรถยนต์ในการทำธุรกิจแบตเตอรี่คือ การได้รับการยอมรับจากผู้ร่วมมือทางธุรกิจ หากบริษัทรถยนต์แห่งนี้นำสินค้าไปเสนอผู้ร่วมธุรกิจ โดยปกติแล้วผู้ร่วมมือทางธุรกิจจะไม่รู้สึกถึงประโยชน์ที่มากพอ ส่งผลให้ไม่เกิดการร่วมมือกับบริษัทรถยนต์แห่งนี้ ลิบไม่ได้เล่าใช้วิธีการเล่าเรื่องถึงผลดีที่มีต่อบริษัทผู้ร่วมธุรกิจเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงผลกระทบที่ดีขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ส่งผลให้บริษัทรถยนต์นี้ได้สถานที่และผู้ร่วมธุรกิจจำนวนมาก เช่น สนามกอล์ฟ บริษัทรถไฟฟ้ารายใหญ่ในญี่ปุ่น เป็นต้น ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน