CALL US TODAY
02-096-3496

Weekdays
09:30 ~ 18:00

Thanasiri

TIME MACHINE STRATEGY

ดูตัวอย่างตลาดอสังหาฯประเทศญี่ปุ่น
เพื่อใช้แผนจากอนาคตที่ทำให้ชนะตลาดได้ 

บริษัทธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
เชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์
ในจังหวัดนนทบุรี

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์

กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ก่อนที่ทางธนาสิริตัดสินใจให้บริษัท LiB Consulting เข้ามาช่วยวางแผนและปรับปรุงระบบการทำงาน สถานการณ์ในบริษัทตอนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ

ตอนนั้นก็มีโครงการหนึ่งที่บริษัทวาง positioning มาค่อนข้างชัดเจน สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์โดยรวมของบริษัท ซึ่งโครงการนี้อยู่ใกล้โครงการที่เคยปิดไปแล้วด้วยเลยคิดว่าน่าจะไปได้ แต่ปรากฎว่าไม่เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ ตอนนั้นมีโครงการอื่นๆขึ้นมาเยอะมากในทำเลราชพฤกษ์-รถไฟฟ้าสายสีม่วง ทำให้มีปัญหาเรื่องยอดลูกค้าเยี่ยมชม และยอดจองน้อยครับ

ตอนนั้นทำไมถึงตัดสินใจให้บริษัท consult (บริษัทที่ปรึกษา)เข้ามาช่วยธนาสิริครับ

จริงๆ ไม่เคยคิดใช้และไม่ได้อยากใช้ที่ปรึกษาเลยนะ ไม่เคยใช้ที่ปรึกษาที่ให้มาช่วยวางแผนหรือปรับปรุงกระบวนการทำงานแบบนี้ ปกติเราจะคิดหาวิธีแก้ เปลี่ยนแผน เปลี่ยนวิธีการสื่อสารต่างๆกันเองครับ เคยใช้แค่ที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือการเงินทั่วๆไปเท่านั้นครับ

แล้วทำไมคุณสุทธิรักษ์ถึงเลือก LiB Consulting เข้ามาครับ

เพราะรู้สึกว่า LiB Consulting สามารถนำแนวคิดและวิธีการทำงานหลายๆอย่างจากญี่ปุ่นซึ่งยังไม่มีบริษัทอื่นในไทยใช้ มาปรับให้เข้ากับบริษัทเราและลูกค้าคนไทยได้ครับ

ตอนแรกได้ทราบว่า LiB Consulting มีความเชี่ยวชาญในด้านอสังหาฯ ทำงานให้กับ developer ชั้นนำของญี่ปุ่นหลายบริษัท เลยมีความสนใจเพราะญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับลูกค้ามาก บริการได้น่าประทับใจ ตรงกับแนวคิดของเราที่เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้า 

นอกจากนั้นตลาดอสังหาฯในญี่ปุ่นไปไกลกว่าไทยจนตอนนี้อยู่ในช่วงขาลงแล้ว ทำให้ที่ญี่ปุ่นมีโนวฮาวเกี่ยวกับวิธีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆในตลาดที่ไทยกำลังเจอและน่าจะเจอหลังจากนี้ เหมือนกับ LiB Consulting มีแนวทางสำหรับอนาคตครับ

พอผมดูงานที่ LiB Consulting เคยทำก็เห็นว่าทำละเอียด ทำให้นำไปใช้ได้จริงๆ ไม่ใช่ทำให้จบๆไปเฉยๆเลยขอให้เข้ามาช่วยครับ 

ตอนนี้ผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจมาก แต่ตอนก่อนจะเริ่มทำงานกับธนาสิรินั้น LiB Consulting ยังไม่มีผลงานในไทยเท่าไหร่ แถมเป็นบริษัทจากญี่ปุ่นอีกด้วย ตอนแรกคุณสุทธิรักษ์ไม่กังวลหรอครับว่านำวิธีการของญี่ปุ่นมาใช้ที่ไทยแล้วจะได้ผลหรือไม่

แน่นอนว่าผู้บริโภคคนไทยและคนญี่ปุ่นต่างกัน... แต่ผมมองว่ากลไกหรือ process การทำงานมันใช้กันได้... ในทางกลับกัน มีหลายจุดที่บริษัทอื่นในไทย แม้แต่บริษัทใหญ่ๆก็ยังไม่ได้ทำด้วยซ้ำครับ

ไม่กังวลเลยนะครับ  แน่นอนว่าผู้บริโภคคนไทยและคนญี่ปุ่นต่างกัน ไลฟ์สไตล์ต่างกัน การตัดสินใจซื้อของลูกค้าก็ต่างกัน แต่ผมมองว่ากลไก หรือ process การทำงาน มันใช้กันได้ ซึ่ง LiB Consulting มีวิธีคิดอย่างเป็นระบบ มีที่มาที่ไปชัดเจน มีการปรับให้เข้ากับที่ไทย เข้ากับธนาสิริ ไม่ได้ตัดแปะเอาวิธีการของญี่ปุ่นมาใช้เลย ในทางกลับกัน มีหลายจุดที่บริษัทอื่นในไทย แม้แต่บริษัทใหญ่ๆก็ยังไม่ได้ทำด้วยซ้ำครับ

ส่วนเรื่องความสามารถของบริษัทและทีมงานนี่ก็ไม่กังวลเลยครับ เพราะได้เจอและเห็น profile อยู่

ขอบคุณมากครับ แล้วหลังจากที่ได้ทำงานร่วมกันจริงๆแล้ว คุณสุทธิรักษ์รู้สึกอย่างไรต่อวิธีการทำงานของ LiB Consulting ครับ

ต้องเรียนว่าไม่เคยใช้บริษัท consult อื่นเลยนะครับ แต่เท่าที่ได้ยินมาผมรู้สึกว่าคุณค่าหรือ value ของ LiB Consulting ที่ต่างจากที่อื่นคือ LiB Consulting ไม่ได้แค่วิจัย คิดแผน ทำเป็นเอกสารแล้วเอามาคุยๆกันอย่างเดียว แต่มีการช่วยตอนบริษัทลงมือทำจริงๆ มีรายละเอียดว่าตอนทำงานจริงนั้น operation หรือขั้นตอนการทำงานควรจะเป็นอย่างไร ลงลึกไปถึงการพัฒนาพนักงานที่ต้องเป็นคนมาเข้าร่วมกระบวนการด้วย และช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ทุกคนทำงานต่อเนื่อง พูดง่ายๆคือ LiB Consulting ทำให้ลึกจริง ครบจนจบกระบวนการ สามารถนำไปใช้ได้จริง เกิดผลขึ้นมาจริง ไม่ใช่แค่ทำผิวเพินแล้วจบๆไปครับ

ในการทำงานร่วมกับ LiB Consulting นอกจากผลสำเร็จในด้านยอดขายแล้ว ทางคุณสุทธิรักษ์รู้สึกว่าพนักงานหรือองค์กรเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างครับ

รู้สึกเลยว่าองค์กรเปลี่ยนไปครับ พอลองทำตามวิธีใหม่แล้วได้ผล คนในบริษัทก็มั่นใจมากขึ้น ผู้บริหารทุกคนเห็นแนวทางที่ชัดเจนก็เลยช่วยส่งต่อลงไปอีก ตัวพนักงานเองพอลองทำตามวิธีของ LiB Consulting ก็รู้สึกใช้ได้จริง ทำแล้วได้ผล ทำให้มั่นใจมากขึ้น  ทำให้พนักงานเค้าไปบอกต่อให้ทำกันเอง กลายเป็นว่าบุคคลากรทุกระดับในองค์กรเห็นแนวทางที่ชัดเจนเหมือนกัน เลิกลังเล  ทั้งบริษัทก็ทำงานต่อเนื่องมากขึ้นครับ

อันนี้ผมก็คิดว่าเป็นผลสำเร็จที่เห็นจากการวางแผนที่ดีของ LiB Consulting และอีกอันนึงที่เป็นหัวใจคือการนำพนักงานหลายๆฝ่ายมาเข้าร่วมตั้งแต่การวางแผน มีการทำ workshop ให้กับพนักงานทุกฝ่ายในบริษัท ทำให้องค์กรเปลี่ยนแปลงครับ

ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะปกติบางทีต่อให้เราบอกให้เค้าเปลี่ยนวิธีการทำงานแล้วเค้าไม่มั่นใจ รู้สึกว่ามันใช้ไม่ได้จริง เค้าก็จะกลับไปทำวิธีแบบเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงครับ

สุดท้ายนี้ ขอถามคุณสุทธิรักษ์หน่อยครับว่า คิดว่าจุดที่ดีที่สุดในการทำงานกับ LiB Consulting คืออะไรครับ

จุดที่ผมว่าดีที่สุด ซึ่งดีกว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นคือทางบริษัทได้ขั้นตอนในการทำงาน มีที่มาที่ไป วิธีการคิดและขั้นตอนการทำงานเป็นระบบ ทำให้สามารถนำไปใช้ต่อในอนาคตได้ครับ อย่างเช่น มีการใช้quantitative analysis แบบใหม่มาใช้ในการวิเคราะห์ตลาดและวางแผน ซึ่งยังไม่เคยเห็นการวิเคราะห์แบบนี้ในวงการอสังหาฯไทยมาก่อน เสร็จแล้วมีการใช้ qualitative เช่น เข้าไปหาลูกค้าจริงๆเพื่อเช็คแผนอีกที ซึ่งเป็นระบบการทำงานที่ละเอียด มีประสิทธิภาพ และนำไปเป็นกระบวนการทำงานของบริษัทได้จริงๆครับ

LiB Consulting ทำให้ลึกจริง ครบจนจบกระบวนการ สามารถนำไปใช้ได้จริง เกิดผลขึ้นมาจริง