ปลดล็อคศักยภาพธุรกิจของคุณแบบเต็มรูปแบบ ผ่านการการวินิจฉัยทางธุรกิจและประเมินอย่างละเอียดที่ครอบคลุมตั้งแต่ ต้นทุน กระบวนการ และระบบต่างๆจึงทำให้คุณสามารถระบุจุดที่ต้องการการปรับปรุงและเป็นแนวทางการแก้ไขที่รวดเร็วและยืนยาวผ่านการค้นพบสาเหตุหลักของปัญหา
กลยุทธ์ที่ 1 : การกำหนดกลยุทธ์การบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศผ่านการวินิจฉัยทางธุรกิจ
ปลดล็อคศักยภาพธุรกิจของคุณแบบเต็มรูปแบบผ่านการประเมินอย่างละเอียดที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นทุน กระบวนการ และระบบต่างๆ จึงทำให้คุณสามารถระบุจุดที่ต้องการการปรับปรุงและเป็นแนวทางการแก้ไขที่รวดเร็วและยืนยาวผ่านการค้นพบสาเหตุหลักของปัญหา
หากบริษัทของคุณกำลังพบเจอหนึ่งในปัญหาดังต่อไป นี่อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าบริษัทของคุณอาจมีต้นทุนหรือกระบวนการที่ยังสามารถปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นได้ผ่าน “การกำหนดกลยุทธ์การบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศ (OpX strategy formulation)”
การวินิจฉัยความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน คือ การวินิจฉัยต้นทุนและประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวมของทั้งบริษัท โดยมุ่งค้นหาปัญหาที่ทำให้เกิดต้นทุนสูงและสามารถปรับปรุงได้ เพื่อให้บริษัททราบถึงปัญหาสำคัญ และแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาซึ่งนำไปสู่ผลกำไรที่เพิ่มขึ้น
การคำนวณกำไรและขาดทุน (P&L) แยกตามสินค้า/ไลน์สินค้า คือ การวิเคราะห์ทางการเงินที่พิจารณาความสามารถในการทำกำไรของแต่ละสินค้าในธุรกิจ การวิเคราะห์นี้ให้ข้อมูลและข้อสังเกตเกี่ยวกับราคาสินค้า โครงสร้างต้นทุน และประสิทธิผลของสินค้า ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจมีความครอบคลุมทั้งนี้เพื่อเพิ่มกำไรผ่านการปรับราคา การพัฒนาสินค้า และ การลดต้นทุน
การแปรรูปอาหาร
หลายๆบริษัทสร้างแผนปรับปรุงพัฒนางาน ด้วยการให้แต่ละแผนกทำแผนบริหารจัดการต้นทุนของตัวเอง โดยมิได้คำนึงเป้าหมายที่แท้จริงในระยะยาวของบริษัท อีกทั้งขาดการวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆทั้งปัจจัยภายนอกบริษัท เช่นคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือปัจจัยภายใน เช่นโครงสร้างต้นทุนของบริษัทเป็นต้น ส่งผลใหแผนปรับปรุงพัฒนาที่สร้างขึ้นไม่ตอบโจทย์ อีกทั้งยังไม่สะท้อนถึงปัญหาที่แท้จริงที่ควรจะให้ความสำคัญ ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ผลการวินิจฉัยทางธุรกิจและความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน (OpX diagnosis) พบปัญหาหลัก คือ การจัดวางเครื่องจักรในสายผลิตที่ทำให้กระบวนการผลิตไม่ต่อเนื่องและต้องใช้พนักงานมากเกินความจำเป็นในงานขนย้ายสินค้าไปยังจุดอื่น โดยลิบ คอนซัลติ้งได้นำเสนอแผนปรับปรุงไลน์การผลิต (Production line redesign) เพื่อแก้ไขปัญหาในจุดนี้รวมไปถึงแผนการดำเนินงานอื่นๆที่จะช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตทั้งหมดของบริษัททั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยหลังจากจบโครงการนี้หากบริษัทสามารถดำเนินการตามแผนได้ทั้งหมดเราคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นมากถึง 22% โดยไม่ต้องลงทุนเครื่องจักรเพิ่มและใช้จำนวนพนักงานในการผลิตเท่าเดิม ในขณะเดียวกันเราคาดการณ์ว่าผลกำไรของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านบาทต่อปี
โรงงานมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตและยอดขายในอนาคต โดยหลังจากที่ลิบ คอนซัลติ้งเข้าไปวินิจฉัยโรงงานจึงพบปัญหาหลักที่ส่งผลต่อกำลังการผลิตคือ การใช้เครื่องจักรผลิตต่ำกว่าศักยภาพ และปัญหาการจัดวางพื้นที่ที่ส่งผลให้การผลิตไม่ต่อเนื่องและมีข้อจำกัด ซึ่งลิบ คอนซัลติ้งได้นำเสนอการจัดทำแผนในการปรับปรุงกระบวนการวางแผนผลิตให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นและปรับโครงสร้างโรงงานใหม่ให้สอดคล้องกับการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
วัสดุก่อสร้าง
ส่วนที่เป็นปัญหาสูงที่สุดที่ส่งผลต่อกำลังการผลิต และกำไรของบริษัทจะเป็นเรื่องของเครื่องจักร Breakdown บ่อย ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่ Preventive maintenance (PM) ไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง และกฏเกณฑ์ของการตรวจสอบไม่แน่นหนา
ผลจากการทำ OpX diagnosis พบว่าปัญหาใหญ่ที่สุดจะเป็นเรื่องของเครื่องจักร Breakdown บ่อย ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่ Preventive maintenance (PM) ไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง และขาดระบบการ monitor และควบคุมให้ทำได้ตามแผนจริง ๆ อีกทั้งยังพบจุดที่สามารถพัฒนากระบวนการทำงานของพนักงานในอีกหลายจุดงาน โดยลิบได้เสนอแผนในการทำ Technician transformation เพื่อแก้ไขปัญหาในในจุดนี้อย่างเร่งด่วน (Quick win) ซึ่งหลังดำเนินการจะสามารถเพิ่มกำไรให้บริษัทได้ถึง 11 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังได้นำเสนอแผนการดำเนินงานที่จะช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตทั้งหมดของบริษัท ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว อีกด้วย
ซึ่งหลังจากที่ลิบได้เข้าไปวินิจฉัยก็พบว่า ส่วนที่เป็นปัญหาสูงที่สุดที่ส่งผลต่อกำลังการผลิต และกำไรของบริษัทจะเป็นเรื่องของเครื่องจักร Breakdown บ่อย ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่ Preventive maintainance (PM) ไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง และกฏเกณฑ์ของการตรวจสอบไม่แน่นหนา ลิบได้ให้คำแนะนำในการจัดทำแผน Technician transformation เป็นแผน Quick win ซึ่งหลังดำเนินการจะสามารถเพิ่มกำไรให้บริษัทได้ถึง 11 ล้านบาทต่อปี
อุตสาหกรรมผลิตสีย้อม
การผลิตส่วนใหญ่ในบริษัทใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง จากการวินิจฉัยพบว่าเวลาที่เครื่องจักรทำงานอยู่จำนวนพนักงานที่ต้องรอเครื่องจักรทำงานโดยไม่ได้ทำงานอื่นมีจำนวนมากกว่า 60% ของเวลาทำงาน
ผลการวินิจฉัยความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน (OpX diagnosis) พบปัญหาหลักคือ มีการใช้พนักงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพโดยพนักวานมีช่วงเวลาว่างมากถึง 60% โดยลิบ คอนซัลติ้งได้เสนอแผนการเพื่อแก้ปัญหานี้ด้วยการนำเครื่องมืออัลกอริธึมมาช่วยในการกำหนดจำนวนพนักงานที่เหมาะสมในแต่ละจุดงานล่วงหน้าเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนผลิต นอกจากนี้แผนยังรวมถึงกลยุทธ์เพื่อจัดการกับปัญหาอื่นๆ ของบริษัท โดยหลังจากจบโครงการนี้หากบริษัทสามารถดำเนินการตามแผนคาดว่าเครื่องมือคำนวณแรงงานที่เหมาะสมแบบอัตโนมัติ(Automated optimal labor calculation tool)จะช่วยลดต้นทุนแรงงานได้มากถึง 6 ล้านบาทต่อปี โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม
การผลิตส่วนใหญ่ในบริษัทใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง โดยหลังจากที่ลิบ คอนซัลติ้งเข้าไปวินิจฉัยจึงพบว่า บริษัทสามารถลดปริมาณพนักงานได้ผ่านการปรับกระบวนการจัดการกำลังคนตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนการผลิตไปจนถึงการบริหารกำลังคนระหว่างวันเพื่อลดช่วงเวลารอคอยเครื่องจักรดำเนินงานในแต่ละจุด ซึ่งปัจจุบันมีเวลารอคอยมากกว่า 60% ของการทำงาน สำหรับประเด็นนี้เราจึงพิจารณานำเสนอแผนในการจัดทำระบบวางแผนการผลิตพร้อมเครื่องมือคำนวณแรงงานอัตโนมัติที่เหมาะสมซึ่งสามารถกำหนดจำนวนพนักงานในแต่ละจุดงานและแต่ละช่วงเวลาอย่างเหมาะสมล่วงหน้าตั้งแต่ตอนวางแผนการผลิต
อุตสาหกรรมอาหาร
หลังจากที่ลิบ คอนซัลติ้งได้เข้าไปวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายสินค้าของบริษัทอาหารแห่งหนึ่งอย่างละเอียดจึงพบว่าสินค้าที่ขายดีเกินกว่าครึ่งไม่ได้สร้างกำไรให้กับบริษัทส่งผลให้บริษัทต้องรีบดำเนินการลดต้นทุนอย่างเร่งด่วน
ผลการวินิจฉัยความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน (OpX diagnosis) พบปัญหาหลักคือ สินค้าที่ขายดีเกินกว่าครึ่งได้สร้างกำไร สาเหตุจากโครงสร้างต้นทุนที่ไม่เหมาะสมหลังจากการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายรายสินค้าอย่างละเอียด โดยลิบ คอนซัลติ้งได้เสนอแผนการปรับลดต้นทุนผ่านการการลดราคาและปริมาณการใช้งาน นอกจากนี้เรายังช่วยดำเนินการลดต้นทุนส่วนที่มีความเร่งด่วน โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 10%สำหรับสินค้าที่สำคัญ มีผลกระทบสูงและคิดเป็น 3.5 ล้านบาทต่อปีภายในระยะเวลาเพียงเดือนเดียว
หลังจากที่ลิบ คอนซัลติ้งเข้าไปวินิจฉัยต้นทุนของบริษัท เช่น ค่าใช้จ่ายของแต่ละสินค้าจึงพบว่าสินค้าที่ขายดีเกินกว่าครึ่งไม่ได้สร้างกำไรให้กับบริษัท จึงจำเป็นที่จะต้องลดต้นทุนโดยด่วนโดยลิบ คอนซัลติ้งได้ใช้หลักการของ Pareto 80/20 เพื่อหารายการสินค้าที่มีผลกระทบสูงก่อนแล้วก็ประเมินความเป็นไปได้ในการลดต้นทุนด้วยการใช้ราคาเป็นเกณฑ์จากนั้นจึงดำเนินการตามแผนโดยอาศัยฐานข้อมูลของของลิบ คอนซัลติ้ง ซึ่งในเคสตัวอย่างนี้ เราสามารถลดช่วยบริษัทลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 10% ของสินค้าที่มีผลกระทบสูงหรือคิดเป็น 3.5 ล้านบาทต่อปีภายในระยะเวลาเพียงเดือนเดียว